รู้จักกี้มากขึ้น

ชื่อ   สุกี้ คะ ปัจจุบันอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต กี้จบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร  เอก บริหารทรัพยากรมนุษย์ ระหว่างที่เรียนก็ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย  จบออกมากก็พยายามหางานทำ พยายามหางานที่มันตรงกับสายงานที่เราเรียนมา งานที่เงินเดือนดีดี  แต่เวลาไปสมัครงานที่ไหน พอเค้าเห็นว่าจบราชภัฎมาเค้าก็จะกดเงินเดือนให้น้อยลง อันนี้โดนเองกับตัวเลย เพราะไปสมัครที่บริษัททัวร์แห่งหนึ่งแถวอนุสาวรีย์ ทำในตำแหน่งการตลาด เค้าก็รับพนักงานมา 2 คน คือ กี้ และ อีกคนหนึ่ง ซึ่งจบจากมหาวิทยาลัย กรุงเทพ ทำในตำแหน่งเดียวกัน (งานเราเยอะกว่าอีก) แต่เงินเดือนกี้กลับน้อยกว่า หลายพันด้วย ทนทำได้ไม่นานค่ะ เพราะเหนือย ต้องโหนรถเมย์ไปเปิดออฟฟิต ต้องไปถึงก่อน 7.30 ครึ่ง ไปไม่ทันก็โดนเจ้านายด่า 
 สุดท้ายเลยออกค่ะ และก็ยังคงหางานทำอีกหลายที่ เสาร์อาทิตย์ก็ไปขายของตามตลาดนัด จนสุดท้ายค่ะได้มาทำงานที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ในตำแหน่ง การตลาด เงินเดือนก็ไม่ได้มากอะไร แต่อาศัยว่าใกล้ที่พัก จะได้ประหยัดค่าเดินทาง ไม่ต้องรีบตื่นนอนแต่เช้า ทำงานในโรงพยาบาลได้สักพักค่ะ รู้สึกว่ามันไม่ตอบโจทย์ชีวิต

แล้วกี้ก็รู้สึกว่ากี้ไม่ชอบเลยที่ต้องอยู่ในกรอบ ต้องรีบเข้ามาตอกบัตรเข้า ตอกบัตรออก วันไหนมีออกหน่วยเอ็กซเรย์ก็ต้องรีบตื่นแต่ตี 2 เริ่มรู้สึกว่างานประจำมันไม่เหมาะกับเราเลย เริ่มมองหางานที่จะให้อิสระทางด้านเวลากับเรา  จึงออกจากงานแล้วไปเปิดร้านขายเสื้อผ้าที่เมืองทอง แต่ก็อย่างว่าแหละค่ะ ขายเสื้อผ้า ร้านที่ขายก็มีเยอะ ขายก็ไม่ค่อยได้กำไรอะไร ปิดร้านก็ไม่ได้เพราะวันนั้นหมายถึงรายได้ของกี้จะหายไปเลย

แล้วก็มาถึงจุดเปลี่ยนในชีวิต กี้มีอันต้องกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งก็เท่ากับกี้เป็นคนใหม่ที่นี้เลย เพราะไม่มีเพือนที่จังหวัดนี้เลย มาอยู่ที่นี้ก็มองหางานทำ แต่ด้วยอายุที่มากและก็ไม่ได้เก่งอะไร ภาษาอังกฤษก็แย่มาก จะไปสมัครงานที่ไหนก็ยาก   กี้เลยมีความคิดที่จะเปิดร้านเสริมสวย จึงได้ไปเรียนเสริมสวยที่โรงเรียนสารพัดช่าง เพื่อที่จะได้มีวิชาติดตัวเอาไว้ไปเปิดร้าน 

แล้ววันหนึ่งค่ะ ได้นั่งคุยกับพี่เจ้าของร้านเสริมสวยคนหนึ่งค่ะ พี่เค้าบอกว่า พี่เคยเรียนเสริมสวยที่นี้เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้เก่งอะไร เพราะทำเสริมสวยต้องมีประสบการณ์และต้องใช้เวลา พี่เลยไปจ้างช่างทำผมที่เก่งๆมาทำงานด้วย แต่ก็มีปัญหา มันเหมือนเราใช้จมูกคนอื่นหายใจ ถ้าไม่มีเค้าเราก็ทำไม่ได้ เวลาที่เราไม่อยู่ก็ไม่รู้เค้าทำผมทำอะไรไปบ้าง ต้องคอยนั่งเฝ้ากันตลอด และ ร้านทำผมก็มีเยอะแยะหลายร้าน ขาดทุนติดๆกันมาเป็นปีแล้ว น้องลองมองดูนะ เวลาน้องขับรถผ่านนะ น้องเห็นร้านทำผมเยอะขนาดไหน แทบจะห้องเว้นห้องเลย แล้วน้องจะไปสู้อะไรเค้าได้ พอได้ฟัง กระจ่างเลยค่ะ ดับไปเลยค่ะ เรื่องจะเปิดร้านทำผมนะ

จนมาวันหนึ่งค่ะ ได้มีโอกาสพบกับธุรกิจเครือข่ายแบรนด์หนึ่ง ด้วยความประทับใจในเครืองสปาของเค้าซึ่งทำให้หน้าแม่กี้ยกกระชับขึ้นมาด้วย จึงคิดอยากจะทำ เพราะคิดแค่ว่า ถ้าเราได้ทำให้คนอื่นสวยนะมันมีความสุขดีแถมยังได้เงินอีกตั้งหาก เข้าไปทำธุรกิจเครือข่ายตัวนั้นโดยไม่ลังเลและไม่คิดอะไรเลยคะ แผนการตลาดอะไรนะไม่สนใจหลอก เค้าเขียนอะไรก็ฟังแบบ งง รู้เท่าที่เค้าบอก พอได้มาทำมันเริ่มมีเงื่อนไขเยอะแยะไปหมดเลย ทำได้แค่ไม่กี่เดือนก็เริ่มเหนื่อยแล้ว เริ่มเหมือนถูกกดดัน แต่ก็ยังอยากทำอยู่ เพราะคิดว่าลงทุนไปแล้วก็เลยทำเลยสู้ต่อ จนได้ชวนเพื่อนซึ่งเป็นเพื่อนคนแรกในภูเก็ตทำได้ แต่สุดท้ายก็จบตรงที่เพื่อนเลิกคบไปเลย เพราะพาเพื่อนมาเสียเงินเยอะ คิดคะว่าจะเลิกแต่มีเหตุก่อน คือพ่อกี้เกิดป่วย เป็นโรคเกี่ยวกับหลัง ตอนเป็นแรกๆลุกเดินไม่ได้เลย กี้เลยคิดว่ากี้อยากจะแบ่งเบาภาระของที่บ้าน อยากให้พ่อกับแม่ได้พัก กี้อยากจะเป็นคนดูแลที่บ้านเอง กี้จึงได้กัดฟันทำธุรกิจเครือข่ายตัวเก่าต่อไป ทำได้ 1 ปีคะ ไม่ประสบความสำเร็จตามที่ตัวเองคิดไว้ ด้วยเพราะเพื่อนน้อย ปิดการขายคนไม่เก่ง มันรู้สึกฝืนๆ พอมีเครือข่ายเป็นของตัวเองก็ต้องให้เครือข่ายทำยอดเยอะๆ กี้รู้สึกไม่ชอบเลยค่ะ ไม่ค่อยมั่นใจในสินค้าด้วย รู้สึกไม่อยากทำ แต่ก็ต้องทำ สิ่งที่ได้มาคือหนี้สินจำนวนหนึ่ง เพราะกี้ต้องทำยอดให้ได้ตามที่เค้ากำหนด จนทำให้กี้ต้องซื้อสินค้าตามคำแนะนำของหลายๆคน


จนวันหนึ่งค่ะ เหมือนฟ้ามีตา ได้มีนิตยสารของบริษัท เอมสตาร์ ส่งมาที่บ้าน ได้เปิดอ่านดูก็ยังเฉยๆ ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย แต่พอกลางคืนได้มานั่งดูขอมูลของบริษัท เอมสตาร์ทางอินเตอร์เน็ต ต้องบอกว่ามีความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งด้วยแผนการตลาดที่จ่ายงานและเอื้อประโยชน์ให้กับนักธุรกิจ แผนในการทำงานที่ง่ายกว่า และที่สำคัญไม่มีการขาย ไม่บังคับซื้อ กี้จึงตัดสินใจที่จะเข้ามาเป็นนักธุรกิจของบริษัทเอมสตาร์ และได้เข้ามาร่วมงานกับทีมงานออนไลน์ระดับมืออาชีพ ซึ่งสอนกี้ทำการตลาดออนไลน์ทุกอย่าง จากคนไม่เป็นอะไรเลย จนทำเป็น
ในการทำเอมสตาร์ให้อะไรกี้มากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรืองสินค้าที่ใช้แล้วประทับใจสุดๆ
ช่วยในหลายๆโรคที่กี้เป็นอยู่ โดยเฉพาะ สิว ซึ่งเป็นได้เรื้องรังมาก ไม่หายซะที ทำให้หน้ากี้เนียนขึ้นมาก ออกไปไหนไม่ต้องใช้ลองพื้นปิดให้หนาๆแล้ว และที่สำคัญค่ะให้กี้ได้มีอิสระมีเวลามากขึ้น เพราะไม่ต้องเครียดกับการเร่งทำยอดเร่งทำคะแนน


กี้สามารถมีเวลาพาลูกไปเที่ยวในวันหยุดได้ เย็นๆก็สามารถพาลูกกับน้องหมาที่รักเหมือนลูกไปวิ่งเล่นที่สะพานหินได้ กี้มีเวลาที่จะเข้าร้านหนังสือโดยเฉพาะหนังสือการ์ตูนเพราะชอบอ่านมาก และยังมีเวลาได้อ่านหนังสือที่หลายๆคนพูดถึงคือ เรือง พ่อรวยสอนลูก ซึ่งทำให้ได้หยุดคิดอะไรบ้างจึงทำให้มองเห็นข้อผิดพลาดอะไรต่างๆในธุรกิจตัวเก่าที่ทำอยู่ ตอนนี้มีเวลาให้ตัวเอง ให้ครอบครัวได้ รู้สึกมีความสุขมากๆกับสิ่งที่ได้รับค่ะ กี้ว่ามันมีค่ามากกว่าสิ่งไหนๆนะค่ะ